Bioplastic & Compostable Plastic (พลาสติกชีวภาพ)

 

"เปลี่ยนวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน! เลือก พลาสติกชีวภาพ จากบริษัท เมอร์ริค ฯ ทางเลือกใหม่ที่ช่วยรักษ์โลก ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย ลดการใช้ปิโตรเลียม พร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน เพราะทุกการเลือกของคุณ คือก้าวสำคัญสู่อนาคตที่สดใสกว่า

 

พลาสติกชีวภาพ: ทางเลือกใหม่เพื่อโลกที่ดีกว่า

ในปัจจุบัน ปัญหาขยะพลาสติกกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก พลาสติกที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันไม่เพียงแค่ใช้เวลาย่อยสลายหลายร้อยปีเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อทั้งน้ำ ดิน และอากาศของเราอีกด้วย ขยะพลาสติกจำนวนมากลงสู่มหาสมุทร ทำลายสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และสร้างปัญหามลพิษต่อชุมชนของเรา การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ อย่างการหันมาเลือกใช้ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) หรือ พลาสติกย่อยสลายได้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้

พลาสติกชีวภาพคืออะไร?

พลาสติกชีวภาพเป็นพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพ เช่น แป้งข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง หรือวัตถุดิบจากพืชที่สามารถปลูกทดแทนได้ การผลิตพลาสติกประเภทนี้ไม่ต้องพึ่งพาปิโตรเลียมที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่สามารถทดแทนได้ และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนขึ้น

นอกจากพลาสติกชีวภาพจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรแล้ว ยังมี พลาสติกย่อยสลายได้ (Compostable Plastics) ที่สามารถย่อยสลายได้รวดเร็วในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การย่อยสลายในระบบคอมโพสต์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ทิ้งสารพิษหรือขยะพลาสติกที่ตกค้างในธรรมชาติ

ทำไมการเลือกใช้พลาสติกชีวภาพถึงสำคัญ ?

  1. ช่วยลดขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้: ขยะพลาสติกทั่วไปต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย แต่พลาสติกชีวภาพสามารถย่อยสลายได้เร็วกว่า และไม่ทิ้งสารเคมีอันตรายสู่สิ่งแวดล้อม
  2. ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด: การใช้พลาสติกที่ทำจากพืชทดแทนช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
  3. สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy): การใช้พลาสติกชีวภาพหรือพลาสติกย่อยสลายได้เป็นการสนับสนุนระบบการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน ช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างของเสียให้น้อยที่สุด
  4. สร้างจิตสำนึกในการรักษ์โลก: การหันมาใช้พลาสติกชีวภาพเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา

การเลือกใช้พลาสติกชีวภาพ เริ่มต้นง่าย ๆ ได้จากคุณ

ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ภาชนะบรรจุอาหาร ช้อนส้อมใช้แล้วทิ้ง หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องสำอาง ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุชีวภาพหรือมีฉลากระบุว่าย่อยสลายได้ ไม่เพียงแค่คุณจะมีส่วนช่วยลดขยะพลาสติก แต่ยังเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากการกระทำเล็กๆ เลือกใช้พลาสติกชีวภาพในชีวิตประจำวัน และกระตุ้นให้คนรอบข้างตระหนักถึงความสำคัญของการรักษ์โลก พลาสติกชีวภาพไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นอนาคตของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน มาเริ่มต้นสร้างความแตกต่างเพื่อโลกของเรา และเพื่ออนาคตของคนรุ่นหลัง!

เพราะทุกการเลือกของคุณ สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ !

ตาม มาตรฐานสากล คำว่า พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) หมายถึง พลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพหรือทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถทดแทนได้ เช่น พืช วัสดุจากสัตว์ หรือจุลินทรีย์ แทนการใช้ทรัพยากรปิโตรเลียม อย่างไรก็ตาม การจัดประเภทของพลาสติกชีวภาพมี 2 ลักษณะสำคัญที่มาตรฐานสากลจะระบุอย่างชัดเจน:

  1. Bio-based Plastics (พลาสติกชีวภาพจากทรัพยากรธรรมชาติ):

    • เป็นพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติหรือชีวมวล (Biomass) เช่น พืชหรือแป้งข้าวโพด
    • ไม่จำเป็นต้องเป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้เสมอไป บางประเภทอาจมีคุณสมบัติคล้ายพลาสติกปิโตรเคมี เช่น Bio-PE (Bio-based Polyethylene) ที่ผลิตจากอ้อย แต่ยังคงไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
  2. Biodegradable Plastics (พลาสติกที่ย่อยสลายได้):

    • เป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยกระบวนการธรรมชาติ เช่น กระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ แต่พลาสติกย่อยสลายได้บางชนิดไม่ได้ผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพทั้งหมด
    • การย่อยสลายจะต้องเป็นไปตามสภาวะที่กำหนดไว้ เช่น ในโรงงานคอมโพสต์อุตสาหกรรม และจะไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง

มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกชีวภาพ:

  • EN 13432 (European Standard): กำหนดมาตรฐานสำหรับวัสดุที่ย่อยสลายได้ ซึ่งระบุว่าเพื่อที่จะได้รับการจัดประเภทเป็น พลาสติกที่ย่อยสลายได้ (Compostable) พลาสติกนั้นต้องสามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 6 เดือนภายใต้สภาวะของโรงงานคอมโพสต์อุตสาหกรรม และไม่ทิ้งสารเคมีอันตรายตกค้าง
  • ASTM D6400 (American Standard): มาตรฐานของสหรัฐอเมริกาที่กำหนดให้พลาสติกย่อยสลายได้ในสภาวะการทำคอมโพสต์เฉพาะ

ดังนั้น พลาสติกชีวภาพตามมาตรฐานสากลคือพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่ไม่จำเป็นต้องย่อยสลายได้เสมอไป และการย่อยสลายจะต้องผ่านการรับรองว่าปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานที่กำหนด.

 

ประเภทของพลาสติกชีวภาพ:

  1. พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable Bioplastics):

    • พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติผ่านกระบวนการของจุลินทรีย์ เช่น PLA (Polylactic Acid) ซึ่งผลิตจากแป้งข้าวโพด หรือ PHA (Polyhydroxyalkanoates) ซึ่งผลิตจากแบคทีเรีย
    • เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราว เช่น บรรจุภัณฑ์ ภาชนะใช้แล้วทิ้ง หรือถุงพลาสติก
  2. พลาสติกชีวภาพที่ไม่ย่อยสลายทางชีวภาพ (Non-biodegradable Bioplastics):

    • เป็นพลาสติกที่ผลิตจากวัสดุชีวภาพแต่ไม่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ เช่น Bio-PE (Bio-based Polyethylene) และ Bio-PET (Bio-based Polyethylene Terephthalate)
    • มีความแข็งแรงและทนทาน ใช้ในอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับพลาสติกปิโตรเลียมทั่วไป เช่น ขวดน้ำ บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้

คุณประโยชน์ของพลาสติกชีวภาพ:

  • ลดการใช้ปิโตรเลียม: เนื่องจากผลิตจากวัตถุดิบทางชีวภาพ ทำให้ลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ
  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพสามารถย่อยสลายได้รวดเร็วกว่าและไม่ทิ้งสารพิษลงในสิ่งแวดล้อม

    ข้อจำกัดการใช้งานของพลาสติกชีวภาพ:
  • การย่อยสลาย: พลาสติกชีวภาพบางประเภทต้องการสภาวะเฉพาะ เช่น การย่อยสลายในระบบคอมโพสต์อุตสาหกรรม ไม่สามารถย่อยสลายได้ง่ายในธรรมชาติทั่วไป
  • ต้นทุน: พลาสติกชีวภาพบางชนิดมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าพลาสติกปิโตรเลียม

สรุปคือ พลาสติกชีวภาพเป็นทางเลือกที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่สามารถทดแทนได้ เช่น ปิโตรเลียม และส่งเสริมการใช้วัตถุดิบที่สามารถปลูกทดแทนได้ แม้บางประเภทจะยังต้องการสภาวะพิเศษในการย่อยสลาย

  

             หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและมลพิษที่เกิดจากการใช้พลาสติกปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม จึงมีการรณรงค์หรือจัดทำนโยบายเกี่ยวกับการใช้ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยประเทศที่มีการรณรงค์หรือนโยบายที่โดดเด่นเกี่ยวกับพลาสติกชีวภาพ ได้แก่:

1. สหภาพยุโรป (EU)

  • นโยบายและมาตรการ: สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการผลักดันพลาสติกชีวภาพและวัสดุที่ยั่งยืนอย่างชัดเจน โดยในปี 2018 สหภาพยุโรปได้ประกาศใช้ "European Strategy for Plastics" ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายลดขยะพลาสติกและสนับสนุนการใช้พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้
  • มาตรการเสริม: บางประเทศสมาชิก เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี ได้ดำเนินมาตรการเฉพาะเกี่ยวกับการห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) และสนับสนุนการใช้พลาสติกชีวภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ

2. ฝรั่งเศส

  • นโยบาย: ฝรั่งเศสมีมาตรการที่แข็งขันในการห้ามใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียว โดยตั้งแต่ปี 2020 ได้เริ่มห้ามใช้ภาชนะบรรจุอาหารพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั้งหมด และได้ส่งเสริมให้ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้พลาสติกที่ทำจากวัสดุชีวภาพหรือพลาสติกย่อยสลายได้แทน
  • กฎหมาย: ฝรั่งเศสยังได้ออกกฎหมาย "Energy Transition Law" ที่กำหนดให้ถุงพลาสติกทุกชนิดที่ใช้ในประเทศต้องเป็นถุงพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้

3. อิตาลี

  • การรณรงค์: อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายได้ ตั้งแต่ปี 2011 โดยกำหนดให้ถุงพลาสติกทั้งหมดต้องผลิตจากพลาสติกชีวภาพหรือย่อยสลายได้
  • นโยบายเพิ่มเติม: นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกชีวภาพอย่างกว้างขวาง โดยอิตาลีเป็นศูนย์กลางของการผลิต PLA (Polylactic Acid) ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้

4. เยอรมนี

  • การรณรงค์: เยอรมนีได้ออกมาตรการที่เรียกว่า "Packaging Act" ซึ่งมีเป้าหมายในการลดการใช้พลาสติกทั่วไปและส่งเสริมการรีไซเคิล รวมถึงการใช้พลาสติกชีวภาพมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน
  • นโยบายสีเขียว: เยอรมนีมุ่งมั่นที่จะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยการสนับสนุนพลาสติกที่ผลิตจากทรัพยากรชีวภาพและการรีไซเคิล เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

5. ญี่ปุ่น

  • การรณรงค์: ญี่ปุ่นมีนโยบาย "Resource Circulation Strategy for Plastics" ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดยเน้นการส่งเสริมการรีไซเคิล การใช้พลาสติกชีวภาพ และการพัฒนาพลาสติกที่ย่อยสลายได้
  • เป้าหมาย: ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2030 จะเพิ่มการใช้พลาสติกชีวภาพให้ถึง 2 ล้านตันต่อปี และยังมีการสนับสนุนวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีพลาสติกชีวภาพและย่อยสลายได้ในระดับอุตสาหกรรม

6. สหรัฐอเมริกา

  • การรณรงค์: แม้ว่าสหรัฐอเมริกายังไม่ได้มีนโยบายระดับชาติที่ชัดเจนเกี่ยวกับพลาสติกชีวภาพ แต่มีหลายรัฐ เช่น แคลิฟอร์เนีย ที่ได้นำมาตรการลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวและส่งเสริมการใช้วัสดุย่อยสลายได้
  • นโยบายท้องถิ่น: บางเมืองในสหรัฐฯ เช่น ซานฟรานซิสโก และซีแอตเทิล ได้กำหนดให้ร้านอาหารและธุรกิจอื่นๆ ใช้ภาชนะที่สามารถย่อยสลายได้แทนการใช้พลาสติกปิโตรเลียมทั่วไป

7. จีน

  • นโยบาย: จีนประกาศแผนที่จะลดการใช้พลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ โดยตั้งเป้าหมายให้ทุกเมืองใหญ่ใช้พลาสติกย่อยสลายได้ในธุรกิจร้านอาหารและค้าปลีกภายในปี 2022 และทั่วประเทศภายในปี 2025
  • การรณรงค์: จีนได้ส่งเสริมการใช้พลาสติกชีวภาพมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิตบรรจุภัณฑ์และภาชนะสำหรับส่งอาหาร

8. ประเทศไทย

  • นโยบาย: ประเทศไทยมีแผนยุทธศาสตร์ในการจัดการปัญหาขยะพลาสติก โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกมาตรการลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) ตั้งแต่ปี 2020 และสนับสนุนการใช้ถุงพลาสติกชีวภาพหรือถุงย่อยสลายได้ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ
  • การรณรงค์: มีโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการใช้พลาสติกชีวภาพในภาคการผลิต โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

การรณรงค์และนโยบายเกี่ยวกับการใช้พลาสติกชีวภาพกำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก โดยประเทศต่างๆ ได้นำมาตรการที่แตกต่างกันไปตามบริบทของประเทศนั้นๆ เพื่อส่งเสริมการใช้พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้

สอบถามราคา สินค้ากลุ่มพลาสติกชีวภาพ

  • PPH/PALF10 (Bio content 10%)
    75.00 ฿
  • PPH/Hemp10 (Bio content 10%)
    75.00 ฿
  • PPH/Wheat5 (Bio content 5%)
    70.00 ฿
  • PPH/Modified starch 10% (Bio content 10%)
    70.00 ฿
  • PPC/Modified starch 10% (Bio content 10%)
    75.00 ฿