หน้าแรก > Technical Services > รับทดสอบและขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติก (ASTM , ISO)

รับทดสอบและขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติก (ASTM , ISO)

 

 

บริษัท เมอร์ริค พอลิเมอร์ จำกัด รับทดสอบและขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติก เพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐานของชิ้นงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย มีความเที่ยงตรง (Accuracy) และบุคลากรที่มีความชำนาญพร้อมทั้งประสบการณ์ในการทดสอบและขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติกในการให้บริการ เพื่อให้ได้สินค้าและการบริการที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้าทุกท่าน 

      โดยทางเราให้บริการทดสอบและขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติกทุกรูปแบบ ตามมาตรฐาน ASTM และ ISO ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริการว่าได้รับการคุ้มครองทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดถัย และตรงตามคุณสมบัติการนำไปใช้งานอีกด้วย

  

 

 

 

Fabricating of Testing Specimens หรือ การขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติกเพื่อการทดสอบ

การนำชิ้นงานไปทดสอบเพื่อหาคุณสมบัติต่าง ๆ นั้น จะมีมาตรฐานกำหนดรูปร่าง ขนาด และลักษณะการเก็บชิ้นงานทดสอบดังกล่าว โดย บริษัท เมอร์ริค พอลิเมอร์ จำกัด มีบริการขึ้นรูปชิ้นงานทดสอบ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานดังนี้


 

Test Specimens Provided

ความทนแรงดึงของพลาสติก
(Tensile Properties Testing)
ใช้เครื่อง Universal Testing Machine ในการวัดค่าความทนแรงดึงของพลาสติก โดยใช้ ASTM D638 เป็นมาตรฐานในการทดสอบ ลักษณะ Specimen เป็นแบบ Dog Bone Shape ตัดมาจากผลิตภัณฑ์จริงตามมาตรฐาน มอก244 เล่ม 4-2525 โดยการสุ่ม การยึดชิ้นทดสอบจะต้องให้แรงดึงอยู่ในแนวแกนของชิ้นทดสอบ

ความทนแรงดัดโค้งของพลาสติก (Flexural Properties Testing)
เครื่อง Universal Testing Machine ใช้วัดค่าความทนแรงดัดโค้งของพลาสติก  โดยใช้ ASTM D790  เป็นมาตรฐานในการทดสอบ ลักษณะ Specimen มีทั้งแบบหน้าตัดเป็นวงกลม, สี่เหลี่ยม หรือรูปทรงหลายเหลี่ยม ให้ได้รัศมีความโค้งตามที่กำหนดไว้ โดยทิศทางของแรงที่ใช้ในการทดสอบนั้นต้องคงที่และเป็นไปอย่างช้า ๆ 

ความต้านทานแรงกระแทกของพลาสติก (Impact Resistance Testing)
ความต้านทานแรงกระแทกของเทอร์โมพลาสติก แสดงให้เห็นถึงความต้านทานของวัสดุต่อการแตกหักในระหว่างการขนส่ง หรือการติดตั้ง โดยใช้ ASTM D2444 เป็นมาตรฐานในการทดสอบ  

ค่าดัชนีการไหลของพลาสติก (Melt Flow Index Measurement)
เครื่องวัดค่าดัชนีการไหลของพลาสติก สามารถวัดค่าดัชนีการไหล (MFI) ของพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติกได้ โดยอุณหภูมิที่ใช้ในการทดสอบ เพื่อให้พลาสติกหลอมละลาย และน้ำหนักที่ใช้กดทับเพื่อให้พลาสติกมีการไหลออกจากเครื่องจะแตกต่างกันสำหรับพลาสติกแต่ละชนิด ตัวแปรในการทดสอบอ้างอิงตามมาตรฐาน ASTM D1238 หน่วยของ MFI จะเป็น กรัมต่อ 10 นาที

Test Specimens Provided

ความหนาแน่นของพลาสติก (Density Measurement)
ISO 1183-1: พลาสติก — วิธีการวัดความหนาแน่นของพลาสติกแบบไร้โพรง โดยใช้เครื่องชั่งเชิงวิเคราะห์แบบทศนิยม 4 ตำแหน่ง OIML G 14: การตรวจวัดความหนาแน่นตาม OIMLASTM-D-792: วิธีการทดสอบมาตรฐานสำหรับความหนาแน่นและมาตรฐานความถ่วงจำเพาะ 

ค่าความเหลืองของพลาสติก (Yellowness Index Measurement)

เครื่องสเปคโตรโฟโตมิเตอร์ โดยตัวเครื่องจะแสดงค่าที่ใช้วัดค่าความเหลืองของพลาสติกคือ YI และค่า ∆YI ที่ใช้วัดความแตกต่างเป็นการเปรียบเทียบความเหลืองของชิ้นงาน  

สูตร ∆YI = YI SAMPLE – YI STD 

โดยถ้าค่า ∆YI เป็นบวก แสดงว่า ชิ้นงานตัวอย่างเหลืองกว่าชิ้นงานมาตรฐาน

ถ้าค่า ∆YI เป็นลบ แสดงว่า ชิ้นงานตัวอย่างเหลืองน้อยกว่าชิ้นงานมาตรฐาน 

Heat Distortion Temperature and Vicat Softening Point

ตามมาตรฐาน ASTM D - 648 และ ISO 75 การทดสอบนี้มีลักษณะคล้าย Bending Test ในด้านการจัดวาง แต่เป็นการทดสอบในด้านขอบของ Specimen เริ่มทดสอบโดยทำการเพิ่มอุณหภูมิที่ 2 °C/min จนกว่าชิ้นงานจะมีการเสียรูป

ตามมาตรฐาน ASTM D - 1525 และ ISO 306 เป็นการทดสอบหาจุดอ่อนตัวของวัสดุที่ไม่มีจุดหลอมเหลวที่แน่นอน เช่นพลาสติก

ค่าความแข็งของพลาสติก (Hardness Testing)

เครื่องทดสอบความแข็งถูกใช้ในการวัดความแข็งของพื้นผิวของพลาสติก ได้ทั้งพลาสติกที่มีความนุ่ม และความแข็ง โดยในการวัดนั้นจะแบ่งค่าออกเป็น Shore A และ Shore D 

การทดสอบอ้างอิงตามมาตรฐาน ASTM D2240

Test Specimens Provided

การทนการติดไฟของพลาสติก (Flammability Testing)
เป็นการทดสอบเพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีลักษณะการติดไฟอย่างไร เพื่อความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน โดยวิธีการทดสอบและขนาดของชิ้นงานที่นำมาทดสอบจะเป็นไปตามมาตรฐาน UL94

ความเป็นตัวกันไฟฟ้าสถิตย์ของพลาสติก (Electrical Resistance Measurement)

วัดค่าความต้านทานไฟฟ้าเชิงปริมาตร (Rv) และเชิงพื้นผิวของชิ้นงาน (Rs) โดยการทดสอบอ้างอิงตามมาตรฐาน ASTM D257 ซึ่งปกติแล้วพลาสติกจะเป็นฉนวน ค่า Rs จะอยู่ที่ 1015 - 1017 โอห์ม

หน่วยของค่าความต้านทานไฟฟ้าเชิงปริมาตร (Rv) คือ โอห์ม-เซนติเมตร และหน่วยของค่าความต้านทานไฟฟ้าเชิงพื้นผิวของชิ้นงาน (Rs) คือ โอห์ม

ค่าความชื้น (Moisture Measurement)

เป็นการทดสอบว่าในเนื้อพลาสติกนั้นมีปริมาณความชื้นอยู่เท่าใด เนื่องจากปริมาณความชื้นเป็นปัจจัยที่ต้องมีการควบคุม เพื่อให้ชิ้นงานพลาสติกมีคุณภาพดี 

เครื่องที่ใช้คือ Moisture Analyzer ตามมาตรฐาน ASTM D6980

ค่าเฉดสีของพลาสติก (Color Difference Measurement)
เครื่องสเปคโตรโฟโตมิเตอร์ ใช้วัดค่าเฉดสีออกมาได้เป็นค่าความขาว/ดำ (L*) ค่าความแดง/เขียว(a*) และค่าความเหลือง/น้ำเงิน(b*) 

ค่าที่นิยมนำไปใช้งานจะเรียกว่าค่า ∆E ซึ่งมีค่าเป็นตัวเลข แสดงค่าความแตกต่างของสีระหว่างตัวมาตรฐานและสินค้าที่ผลิตขึ้น 

มีสูตรดังนี้   ∆E* = [(∆L)2+(∆a)2 +(∆b)2]½  ซึ่งโดยทั่วไปค่า ∆E ที่ยอมรับได้ควรอยู่ที่ < 1.0