ผงสีและสีย้อม (Pigments & Solvent Dyes)
การเลือกใช้สารให้สีที่เหมาะสมคือก้าวแรกที่สำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์, การผลิตพลาสติก, หรือแม้แต่สีทาบ้าน สารให้สีหลักที่เราคุ้นเคยกันสามารถแบ่งออกได้เป็น ผงสี (Pigment)และสีย้อม (Dye) แต่ทั้งสองประเภทนี้มีคุณสมบัติและหน้าที่ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาทำความเข้าใจกันว่าสารแต่ละชนิดทำงานอย่างไรและเหมาะกับงานแบบไหน
ผงสี (Pigments) คืออะไร?
Pigment คือ สารที่ทำให้เกิดสีสันต่าง ๆ มีหน้าที่ให้ความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการปรับลักษณะที่ปรากฎของพื้นผิว เช่น ความด้าน ความเงา ความใส เป็นต้น
คุณสมบัติพื้นฐานของ Pigment
- Color shade : เฉดสีเป็นการนำสีต่าง ๆ ของค่าสีเดิม (Hue) มาเติมสีดำให้มีสีทึบลง ซึ่งเหมือนกับการลดค่า Brightness ทำให้สีมีความเข้มข้น ทึบขึ้น เช่น จากสีเขียวกลายเป็นสีเขียวแก่
- Density : อัตราส่วนของมวลต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรซึ่งเป็นสมบัติพื้นฐานของสสารโดยวัตถุที่มีมวลในหนึ่งหน่วยพื้นที่ที่กำหนดมากเท่าไหร่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัตถุดังกล่าวมีความหนาแน่นมากเท่านั้น
- Heat resistance : ความสามารถในการทนความร้อนของสีในการดำรงอยู่ในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงโดยไม่เปลี่ยนสภาพไปอย่างถาวร
- Migration resistance : การวิเคราะห์สารที่อยู่ในแต่ละชนิด และสารปนเปื้อนในสีที่สามารถแพร่กระจายออกมา ตามสภาวะที่ควบคุมให้เกิดผลกระทบต่อชิ้นงานนั้น ๆ
- Dispersibility : ช่วยกระจายเม็ดสีในสูตร เพื่อให้สูตรไม่จับตัว ไม่เกาะตัว ลดการข้นตัวของสูตร ทำให้สามารถเพิ่มสัดส่วนของเม็ดสีในสูตรได้มากขึ้น โดยไม่ทำให้สูตรเข้มข้นจนเกินไป หรือสามารถช่วยให้เม็ดสีแสดงสีได้ชัดเจนขึ้น สีเนียนกระจายทั่วสูตรได้เท่ากันมากยิ่งขึ้น
- Light/Weather fastness : ความสามารถของสีในการดำรงอยู่ในสภาวะภายนอกอาคารโดยไม่เปลี่ยนสภาพไปอย่างถาวร
ประเภทของ Pigment มี 2 ชนิด ได้แก่ Organic pigment และ Inorganic pigment
1. Organic Pigment
เป็นเม็ดสีที่ได้จากสารประกอบคาร์บอน ส่วนใหญ่มักเป็นสารสังเคราะห์ มีจุดเด่นคือให้สีที่สดใส มีค่าความเข้มของสีสูง และมีความโปร่งแสง ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการสีสันฉูดฉาด เช่น สีสำหรับรถยนต์, หมึกพิมพ์คุณภาพสูง และงานเคลือบสีต่าง ๆ
คุณสมบัติของ Organic pigment
- มีแหล่งกำเนิดจากปิโตรเคมี
- สีสว่างสดใส
- มีความโปร่งใส
- มีความคงทนต่อแสงค่อนข้างดี
- สามารถละลายในตัวทำละลายได้น้อย
- มีความปลอดภัย
- มีความเสถียรทางเคมี
2. Inorganic Pigment
เป็นเม็ดสีที่ได้จากแร่ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ เช่น ออกไซด์ของโลหะ คุณสมบัติเด่นคือให้สีที่ทึบแสงสูงและมีความทนทานต่อแสงแดด สภาพอากาศ และความร้อนได้ดีเยี่ยม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานที่ต้องการความคงทนเป็นพิเศษ เช่น การผลิตพลาสติก PVC, คอนกรีตสี และงานเคลือบเครื่องหนัง เป็นที่นิยมมากในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากต้นทุนต่ำ
คุณสมบัติของ Inorganic Pigment
- มีแหล่งกำเนิดจากแร่ธาตุ
- สีทึบ
- มีความทึบแสง
- มีความคงทนต่อแสงดีมาก
- ไม่สามารถละลายในตัวทำละลายได้
- อาจจะไม่ปลอดภัย
- ไม่ค่อยมีความเสถียรทางเคมี
สีย้อม (Solvent Dye) คืออะไร?
สีย้อมคือสารให้สีที่แตกต่างจากเม็ดสีโดยสิ้นเชิง เพราะมันสามารถ ละลายได้อย่างสมบูรณ์ ในตัวทำละลาย ทำให้เกิดเป็นสารละลายเนื้อเดียวที่โปร่งใส สีย้อมทำงานโดยการซึมซับเข้าไปในพื้นผิวของวัสดุ ซึ่งจะทำให้สีติดแน่นและมีความสม่ำเสมออย่างสมบูรณ์
คุณสมบัติของ Solvent Dye
- สามารถละลายในน้ำได้
- สามารถละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ จึงมีความสำคัญในการเสริมสีต่าง ๆ ให้มีคุณภาพและความสม่ำเสมอสูงสุด
- ไม่มีการไอออไนเซชั่น เนื่องจากอนุภาคภายในสีย้อมเป็นอนุภาคที่ไม่มีขั้วหรือมีขั้วขนาดเล็ก
ข้อดี
- มีเฉดสีที่สม่ำเสมอ
- ความคงทนต่อแสงที่ดีขึ้น
- ป้องกันการปนเปื้อนได้ดี
- มีความเสถียรทางความร้อนที่ดี
- สามารถเข้ากับพลาสติกได้ดีในอุณหภูมิที่เหมาะสม
สามารถใช้ได้กับ
- Polystyrene
- Nylon
- PTEG
- Polyester
- PETE
การเลือกใช้สารให้สีควรพิจารณาจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และผลลัพธ์ที่ต้องการ หากคุณต้องการสีที่ทึบแสงและมีความคงทนสูง ผงสี (Pigment) คือคำตอบ แต่หากต้องการสีที่โปร่งใสและซึมลึกเข้าสู่เนื้อวัสดุ สีย้อม (Dye) จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้สารให้สีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกงาน