Antistatic
Antistatic
เป็นสารช่วยลดการสะสมไฟฟ้าสถิตบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์ โดยป้องกันการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าระหว่างพอลิเมอร์กับพื้นผิวของสิ่งอื่นๆ ทั้งยังช่วยหล่อลื่นภายใน จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก เช่น LDPE, HDPE, PP เป็นต้น
กลไกการทำงานของสารป้องกันไฟฟ้าสถิต
สารป้องกันไฟฟ้าสถิตที่เติมลงไป จะกระจายตัวในเนื้อพลาสติก เมื่อระยะเวลาผ่านไปสารจะเคลื่อนตัว (Migrate) ไปที่ผิวของพลาสติก และจัดเรียงตัวเป็นชั้นเคลือบผิวพลาสติกเอาไว้ มีหน้าที่จับความชื้นในอากาศ ทำให้ลดการประทุของประจุไฟฟ้าสถิตบนผิวพลาสติกได้ อีกทั้งสารป้องกันไฟฟ้าสถิตนี้ยังมีส่วนที่จับกับความชื้นในอากาศ (ส่วน Hydrophilic) และส่วนที่จับกับผิววัสดุ (ส่วน Hydrophobic) ซึ่งจะช่วยลดค่าความต้านทานไฟฟ้า (Surface Resistivity) บนผิวพลาสติก โดยอัตราการเคลื่อนตัวของสารป้องกันไฟฟ้าสถิตจากเนื้อพลาสติกไปยังผิวจะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
- เวลา (โดย Short Term กระจายตัวไปยังผิวภายใน 24 ชั่วโมง และ Long Term กระจายตัวไปยังผิวภายใน 48 ชั่วโมง)
- ปริมาณสาร (ยิ่งปริมาณสารมาก ก็ยิ่งกระจายตัวได้เร็ว)
- อุณหภูมิ (ยิ่งอุณหภูมิสูง ยิ่งกระจายตัวได้เร็ว)
ข้อดีของสารป้องกันไฟฟ้าสถิต
- ป้องกันการเกาะติดของฝุ่นผงบนผิวหน้าชิ้นงาน
- ลดการเกาะติดของพอลิเมอร์กับเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต
- ลดการเกิดประกายไฟ เนื่องจากประจุไฟฟ้าที่แลกเปลี่ยนกัน
- ป้องกันการสะสมของประจุไฟฟ้าสถิตบนผิวของผลิตภัณฑ์
- ลดความเสียหาย และการรบกวนประจุไฟฟ้าในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อเสียของสารป้องกันไฟฟ้าสถิต
- ต้องเกิดการกระจายตัวของสารไปยังผิวพลาสติก ก่อนการทำงาน
- มีระยะเวลาในการกระจายตัวของสาร ก่อนการเกิดผลการป้องกันการประทุ
- การป้องกัน หรือประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้นในสิ่งแวดล้อม
- มีอายุการใช้งานที่จำกัด
- ทำให้เกิดคราบน้ำมัน